ประวัติความเป็นมาของวิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม เป็นวิทยาเขตลำดับที่ ๑๐ ของมหาวิทยาลัย ได้รับการจัดตั้งเป็นวิทยาเขตตามประกาศมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ที่ ๔๘/๒๕๓๗ ลงวันที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๗ ซึ่งมีประวัติความเป็นมาดังต่อไปนี้
พ.ศ. ๒๕๓๐ : จัดตั้งเป็นสถาบันการศึกษาภาษาบาลี ตามหลักอันมาในคัมภีร์สัททาวิเสส โดยใช้ชื่อว่า “สถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆส”
พ.ศ. ๒๕๓๕ : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รับสถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆสเข้าเป็นส่วนงานระดับสถาบันของมหาวิทยาลัย สังกัดสำนักงานอธิการบดี
พ.ศ. ๒๕๓๗ : จัดตั้งเป็น “วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม”ตามคำสั่งมหาวิทยาลัยที่ ๔๘/๒๕๓๗ ลงวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๓๗ จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา ในหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาบาลีพุทธศาสตร์
ประวัติความเป็นมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยแบ่งเป็นยุคๆ ดังนี้
ยุคก่อตั้งสถาบันการศึกษาคัมภีร์สัททาวิเสส (พ.ศ. ๒๕๓๐)
พระพรหมโมลี (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ.๙, M.A., Ph.D.) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีสุทธิพงศ์ เป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งสถาบันการศึกษาแห่งนี้ขึ้นโดยใช้ชื่อว่า “สถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆส” เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูการเรียนการสอนภาษาบาลีตามแนวคัมภีร์หลักภาษาบาลีชั้นสูงอันได้แก่คัมภีร์สัททาวิเสส เพื่อเป็นการวางพื้นฐานความรู้ความเชี่ยวชาญทางด้านภาษาบาลีซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการศึกษาพระไตรปิฎก ได้อย่างถูกต้องตรงตามพุทธประสงค์ทั้งอรรถะและพยัญชนะ อันจะช่วยให้ถ่ายทอดอรรถสาระแห่งพุทธพจน์ในพระไตรปิฎกจากภาษาบาลีสู่ภาษาไทยหรือภาษาอื่นใดโดยไม่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการจรรโลงพระสัทธรรมให้คงอยู่ชั่วกาลนาน
แรงบันดาลใจในการจัดตั้งสถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆสได้เริ่มขึ้น เมื่อครั้งพระพรหมโมลีดำรง สมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระศรีสุทธิพงศ์ เป็นอาจารย์สอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ชั้นประโยค ป.ธ.๗ ประจำสำนักเรียนวัดชนะสงคราม ได้ทราบว่าวัดท่ามะโอ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เปิดสอนวิชาภาษาบาลีตามหลักคัมภีร์ภาษาบาลีชั้นสูงอันได้แก่ คัมภีร์ไวยากรณ์, อภิธานัปปทีปิกา, วุตโตทัย และสุโพธาลังการ เมื่อเรียนจบคัมภีร์ทั้ง ๔ นี้แล้วจะมีความรู้แตกฉานในภาษาบาลีเป็นอย่างดี สามารถวินิจฉัยศัพท์วิจัยธรรมได้อย่างมีกฎเกณฑ์และหลักการ
เมื่อพระพรหมโมลีศึกษาพินิจพิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาของคณะสงฆ์แล้วเห็นว่า การศึกษา ภาษาบาลีปัจจุบันยังไม่สามารถที่จะทำให้ผู้เรียนมีความเชี่ยวชาญแตกฉานภาษาบาลี เพียงพอต่อการศึกษาวิเคราะห์อรรถสาระในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาได้อย่างลุ่มลึก ท่านจึงเริ่มศึกษาค้นคว้างานด้านคัมภีร์สัททาวิเสสอย่างจริงจัง คัมภีร์แรกที่เริ่มศึกษาและดำเนินการปริวรรตจนจบเป็นเล่มคือ คัมภีร์อภิธานัปปทีปิกาฎีกา และเพื่อให้งานด้านการศึกษาคัมภีร์เหล่านี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง ท่านจึงลาพักงานประจำต่าง ๆ ในขณะนั้น คืองานในตำแหน่งคณบดี คณะพุทธศาสตร์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ชื่อในขณะนั้น) งานในตำแหน่งเลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๓ และงานสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีที่วัดชนะสงคราม เป็นการชั่วคราว เดินทางไปจำพรรษาที่วัดท่ามะโอ จังหวัดลำปาง เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ เพื่อศึกษาถึงวิธีการ กระบวนการ การเรียนการสอนคัมภีร์หลักภาษาบาลีชั้นสูง และอีกประการหนึ่งที่สำคัญคือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ที่จะนำคัมภีร์หลักภาษาบาลีชั้นสูงทั้ง ๔ นั้นมาจัดการเรียนการสอนให้แพร่หลายทั่วไป
ช่วงเวลาที่พระพรหมโมลีจำพรรษาที่วัดท่ามะโอจังหวัดลำปาง มีโอกาสพบคัมภีร์ทางภาษาบาลีอีกมากมายที่ทรงคุณค่าต่อการศึกษาพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะคัมภีร์ “อภิธานติปิฏกะ” หรือที่เรียกเป็นภาษาไทยว่า “ปทานุกรมพระไตรปิฎก” เป็นหนังสือปทานุกรมพระไตรปิฎกที่พระเถระผู้เป็นนักปราชญ์ชาวพม่าได้ร่วมกันจัดทำขึ้น โดยนำศัพท์บาลีจากพระไตรปิฎกทั้งหมดที่ไม่ซ้ำกันมากระจายรูปคำหารากศัพท์ว่าเดิมเป็นมาอย่างไร มีความหมายอย่างไร และมีปรากฏในพระไตรปิฎกเล่มที่เท่าใด หน้าใด หรือมีปรากฏในคัมภีร์อื่น ๆ นอกจากพระไตรปิฎกหรือไม่อย่างไร
หลังจากจำพรรษาที่วัดท่ามะโอได้หนึ่งพรรษา ท่านก็ได้เดินทางกลับมาอยู่จำพรรษาที่วัด ชนะสงคราม และได้ดำเนินการขอต้นฉบับคัมภีร์อภิธานติปิฏกะจากสถานทูตพม่า (ชื่อในขณะนั้น) แล้วตั้งคณะทำงานเพื่อแปลเป็นภาษาไทย แต่ก็ประสบปัญหาในการทำงานเนื่องจากคณะทำงานไม่เคย เรียนคัมภีร์หลักภาษาบาลีชั้นสูง จึงไม่สามารถวินิจฉัยศัพท์วิจัยธรรมได้อย่างมีกฎเกณฑ์และหลักการ พระพรหมโมลีจึงเห็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้พระภิกษุสามเณร ได้มีโอกาสศึกษาคัมภีร์หลัก ภาษาบาลีชั้นสูง เมื่อพระภิกษุสามเณรศึกษาและแตกฉานคัมภีร์เหล่านี้แล้วก็จะสามารถศึกษาคัมภีร์ ทางพระพุทธศาสนาระดับต่างๆ ได้โดยง่าย ทั้งสามารถวินิจฉัยศัพท์วิจัยธรรมได้อย่างถูกต้อง ท่านจึง จัดทำโครงการจัดตั้งสถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆสขึ้น เพื่อให้เป็นสถานศึกษาคัมภีร์ดังกล่าว โดยเริ่มแรก นั้น คุณมงคล-คุณวนิดา วัฒนเกียรติสรร เจ้าของบริษัทเมอรี่คิงส์ จำกัด มีศรัทธาปวารณามอบที่ดินที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม เมื่อท่านได้ไปตรวจดูสภาพแวดล้อมเช่นการคมนาคมก็พบว่าที่ดินดังกล่าวอยู่ห่างไกลจากโคจรคาม การเดินทางไม่สะดวก อาจมีปัญหาอุปสรรคมากอีกทั้งทุนในการจัดตั้งและดำเนินการก็ยังมีไม่เพียงพอจึงงดไว้ก่อน
ต่อมาพระครูสุนทรโฆษิต (แจ่ม ธุวาโภ) [มรณภาพแล้ว] วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กรุงเทพฯ ได้ปรารภว่าวัดมหาสวัสดิ์เป็นวัดสร้างใหม่ ยังไม่มีพระสงฆ์พอที่จะเป็นที่พึ่งของทายกทายิกา ได้ ท่านพระครูฯจึงได้ชักชวนให้พระพรหมโมลีมาดูสถานที่ เมื่อพระพรหมโมลีได้มาดูสถานที่แล้วเห็นว่า เป็นที่สัปปายะดี ไม่ไกลจากการคมนาคมมาก และอีกประการหนึ่งที่สำคัญ คือท่านได้เปิดโอกาส ให้พระพรหมโมลีมีอิสระในการดำเนินงานบริหารด้านการศึกษาได้อย่างเต็มที่ พระพรหมโมลีจึงจัดตั้งสถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆสขึ้นที่วัดมหาสวัสดิ์นาคพุฒาราม เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ เป็นต้นมา โดยมีสำนักงานทำหน้าที่บริหารเป็นการชั่วคราวที่ คณะ ๑๑ วัดชนะสงคราม บางลำภู กรุงเทพฯ
ยุครับรองสถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆส (พ.ศ. ๒๕๓๕)
เพื่อให้สถาบันฯ สามารถดำเนินงานบริหารได้อย่างเป็นระบบและเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไป เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ คณะกรรมการบริหารสถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆส จึงได้ดำเนินการนำคัมภีร์ สัททาวิเสสมาจัดเป็นหลักสูตรชั้นบาลีศึกษา (ชั้นปฐมบาลีและมัธยมบาลี) และวางระเบียบในการจัดการ เรียนการสอนเสนอต่อสภากรรมการบริหารมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อเข้าสังกัด เป็นหน่วยงานของมหาวิทยาลัย อันจะเป็นการเริ่มต้นแห่งการบริหารอย่างเป็นระบบและเป็นที่ยอมรับ โดยทั่วไป สภากรรมการบริหารมหาวิทยาลัยมีมติรับสถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆสเข้าเป็นหน่วยงานหนึ่งของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สังกัดสำนักงานอธิการบดี
ยุคเริ่มจัดการศึกษาระดับอุดมศึกษา (พ.ศ.๒๕๓๗)
ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๓๖ พระพรหมโมลีได้จัดทำโครงการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา (ชั้นปริญญาตรี) โดยนำคัมภีร์สัททาวิเสสมาเป็นวิชาพื้นฐานทางด้านภาษาบาลี และคัมภีร์พระไตรปิฎกเป็นวิชาเอก เพื่อเปิดรับพระภิกษุสามเณรเปรียญธรรม ๕ ประโยคขึ้นไปเข้าศึกษา เริ่มแรกได้จัดเป็นหลักสูตรระยะสั้น ๖๐ วันเพื่อทดลองความเป็นไปได้ก่อน จากนั้นได้ขอความอุปถัมภ์ด้านสถานที่สำหรับใช้ทดลองใช้หลักสูตรจากเจ้าประคุณสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ฟื้น ชุตินฺธรมหาเถร) วัดสามพระยา เจ้าประคุณสมเด็จฯ มีเมตตานุเคราะห์ให้ใช้โรงเรียนพระปริยัติธรรมได้ จึงเริ่มทำการ ทดลองใช้หลักสูตรตั้งแต่วันที่ ๔ มีนาคม ถึงวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๓๖ ผลการทดลองปรากฏว่าน่าพอใจ สร้างความมั่นใจในการใช้หลักสูตรมากยิ่งขึ้น
ยุคเปลี่ยนสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (พ.ศ.๒๕๔๐)
เมื่อโครงการทดลองจัดการศึกษาคัมภีร์สัททาวิเสสระยะสั้น ที่วัดสามพระยาสิ้นสุดลง พระพรหมโมลีจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อจัดทำ ร่างระเบียบและหลักสูตรปริญญาพุทธ ศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาบาลีพุทธศาสตร์ โดยนำคัมภีร์พระไตรปิฎกมาจัดเป็นวิชาเอก และนำคัมภีร์หลักภาษาบาลีชั้นสูงมาจัดเป็นวิชาแกน ตามหลักการจัดหลักสูตรระดับอุดมศึกษาทั่วไป เสนอต่อมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเพื่อจัดการเรียนการสอน โดยสังกัดคณะพุทธศาสตร์ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สภากรรมการบริหารมหาวิทยาลัยได้อนุมัติให้สถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆส ดำเนินการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้ พระพรหมโมลีและคณะกรรมการจึงได้เริ่มงานจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาตั้งแต่ภาคการศึกษาที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๓๗ และในปีเดียวกันนั้น สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ และกระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้เป็นปีทองของการศึกษาคณะสงฆ์ สภาการศึกษาของคณะสงฆ์ โดยการเสนอของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีมติยกสถานภาพสถาบันบาฬีศึกษาพุทธโฆส เป็น มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม ในคราวประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๓๗ วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๓๗ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์ ทรงลงพระนามในประกาศคณะกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์ เมื่อวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๓๗
ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ รัฐสภาได้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ให้มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ
ในการประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ ๓/๒๕๔๓ เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๔๓ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีมติอนุมัติให้วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม เปิดหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา อีกหนึ่งสาขาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๔๓ เป็นต้นมา
ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ครั้งที่ ๕/๒๕๔๘ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๘ มีมติอนุมัติให้วิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม เปิดหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการเชิงพุทธ อีกหนึ่งสาขาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๔๘ เป็นต้นมา
*******************